วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

18 นิยามรัก แง่คิดดี ๆ ....ในชีวิตใครสักคน

          "ก็ความรัก มันเป็นข้อความลึก ๆ ของใจ
           จะถามว่าหน้าตาเป็นแบบไหน
           ฉันคิดว่าคงหน้าตาเหมือนเธอ

           ก็ความรัก เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันยิ้มได้
           ช่วยฉันให้มีความสุขไม่ว่าอยู่ไหน
           เธอรู้ไหม ทุกครั้งที่ใกล้เธอเป็นแบบนี้"

 1. การมอบความรักแล้วไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์
           แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือการรักใครสักคน แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนนั้นรู้ และต้องมาเสียใจภายหลัง
  2. ความรัก คือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่  
           แม้จะแยกความรู้สึกลุ่มหลง และความสัมพันธ์แบบรักใคร่ทางกายออกไปแล้ว
  3. สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา
           แต่มาค้นพบภายหลังว่าเราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อคู่กัน และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป
  4. เมื่อประตูแห่งความสุขบานหนึ่งปิด
           ประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดออก แต่.. เราก็มักจะมองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนาน จนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตูแห่งความสุขบานอื่นที่เปิดรออยู่
  5. เพื่อนที่ดีที่สุด  
           คือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันได้โดยไม่ต้องพูดอะไรสักคำ แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด
 6. เป็นความจริง ที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่ จนกว่าจะสูญเสียไป...
           แต่ก็จริงอีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างจนกระทั่งผลของสิ่งนั้นมาถ ึง
 7. การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคน
           ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ.. อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ก็ควรพอใจว่าอย่างน้อยสิ่งเหล่านั้นก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเราเอง
 8. สิ่งที่คุณปรารถนาจะได้ยิน 
           มักไม่ออกจากปากของคนที่คุณอยากให้พูด
 9. อย่าบอกลา ถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป  
           อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณยังไม่สามารถ "ทำใจ"
 10. ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง ถึงแม้จะผิดพลาด  
           ความรักจะมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้จะถูกทรยศหักหลัง และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน
 11. อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะนั่นอาจหลอกเราได้  
           อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะนั่นไม่จีรังยั่งยืน แต่.. ควรมองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะรอยยิ้มเพียงครั้งเดียว สามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใสได้
 12. การที่เราจะประทับใจใคร..

            อาจใช้เวลาแค่เพียงนาทีเดียว การที่เราจะชอบใคร..อาจใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียว การที่เราจะรักใคร.. อาจใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต
 13. ขอให้คุณมีความสุขมาก พอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน  
           ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง มีความเศร้าโศกพอที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และมีความหวังมากพอที่จะทำให้คุณเป็นสุข
 14. การเอาใจเขามาใส่ใจเรา 
           อาจทำให้คุณรู้สึกเป็นเรื่องทำให้ต้องเจ็บปวด แต่.. รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวดจากสิ่งเดียวกันนั้นเช่นกัน
 15. จุดเริ่มของความรัก 
           คือการปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้น.. จะหมายความว่าเราต้องการเพียงภาพสะท้อนของตัวเราที่ปรากฏในตัวเขา
 16. คนที่มีความสุขที่สุด 
           ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก
 17. อนาคตที่สดใส มีรากฐานมาจากการลืมอดีต  
           เพราะคุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปให้ดีได้ ถ้าไม่รู้จักปล่อยวางจากความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ
 18. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิด
           ท่ามกลางรอยยิ้มของคนรอบข้าง ดังนั้น.. จงมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น และในยามที่คุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้มในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ
             ขอให้สมหวังในความรัก  และจงรักตัวเองให้มากๆ นะคะ

แหล่งข้อมูล: http://share.psu.ac.th/blog/kitty-kat/4125

Diet ง่ายๆ สไตล์ญี่ปุ่น


เคยสังเกตกันไหมว่า สาวญี่ปุ่นนอกจากจะคงความโนะเนะน่ารักของวัยใสไว้ได้ จนกระทั่งเข้าวัยกลางคนแล้ว เธอยังคงทรวดทรงงดงามอ้อนแอ้นตามแบบหญิงเอเชีย ไม่อ้วนเผละไปตามวัยที่เพิ่มขึ้น หรือพกห่วงยางไว้ให้อุ่นใจยามเตร็ดเตร่แถวชายทะเลเหมือนสาวประเทศอื่นๆ พวกเธอมีเคล็ดลับอย่างไรในการรักษาทรวดทรงองค์เอวให้ อ้อนแอ้นอรชรเหมือนสาวแรกรุ่นตลอดเวลากันแน่ คำตอบง่ายๆ คือ วิธีการรับประทานอาหารของพวกเธอในแต่ละวันนั่นเอง เคล็ดลับที่จะนำเสนอนั้น นอกจากจะ ใช้ได้กับอาหารญี่ปุ่นแล้ว ยังปรับใช้ได้กับอาหารไทยอีกด้วย


เริ่มจากการเลือกถ้วยชามชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าถ้วยชามที ่เหมาะสมกับการรับประทานอาหารแต่ละมื้อ คือถ้วยชามที่มีสีออกแนวเอิร์ธโทนอย่างเช่น ขาว ดำ เทา เพราะอาหารเป็นสิ่งที่รังสรรค์ขึ้นจากธรรมชาติ ความลงตัวของศิลปะในการกินจึงเป็นเรื่องสำคัญ

นอกจากนั้น ถ้วยชามที่ใช้ควรมีขนาดเล็ก ไม่ควรใช้จานเปลใหญ่ในการตักอาหาร เพราะเป็นหลักจิตวิทยาว่า ถ้าคนเห็นอาหารเต็มชาม แม้ชามจะขนาดเล็กกว่าปกติ จะทำให้คนเราอิ่มได้เร็วขึ้น ดังนั้น ควรลดขนาดภาชนะบนโต๊ะอาหารลงเสียตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าไม่อยากให้ฮิปโปโปเตมัสเข้าใจว่าคุณเป็นผู้ให้กำเ นิด

การใช้ตะเกียบพุ้ยข้าว จะทำให้คุณกินข้าวได้ช้าลง และปริมาณน้อยลง เนื่องจาก สมองรับรู้ความอิ่มหลังจากที่ร่างกายอิ่มไปแล้วประมา ณสิบนาที เมื่อคุณทานช้าลง ระยะเวลาสิบนาทีของการประสานงานระหว่างสมองกับร่างกา ยจึงไม่มากพอทีจะทำให้คุณ ยัดทะนานจนกระทั่งจุกนั่นเอง

การกินอาหารหลากหลายประเภทพร้อมกับข้าว จะทำให้ร่างกายใช้พลังงานในการเผาผลาญมากขึ้น เนื่องจากความหลากหลายของพลังงานจะช่วยกระตุ้นระบบกา รเผาผลาญให้ทำงานตลอดเวลา เพราะร่างกายจะคิดว่า มีอาหารชนิดใหม่เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นจึงควรใช้ภาชนะขนาดเล็กตักกับข้าวหลากหลายเพื่อรับประทานในหนึ่งมื้อมากกว่าตักอาหารชนิดเดียวใส่ชามอ่าง แม้จะอิ่มเหมือนกัน แต่อ้วนไม่เหมือนกันแน่นอน

กลอนรัก กลอนความรัก กลอนหวานสุดซึ้ง

                     
           ++ คนรัก ++
คนรัก....
คือคนที่เราอยากฝันถึงยามหลับตา
คือคนที่อยู่ในทุกห้วงความรู้สึก....
คือคนที่เราอยากลืมตาขึ้นมาเห็นเป็นคนแรก
คือคุณที่เราอยากจุมพิตเบา-เบาและบอกรัก
คือคนที่เราอยากนั่งดูหนังรักด้วยแล้วโอบกอดยามหนังซึ้งสุดขีด
คือคนที่เราอยากใช้ชีวิตด้วยตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
คือคนที่เราห่วงแสนห่วงและหวงแสนหวง
คือคนที่เรารับรู้ได้ถึงความอบอุ่นแห่งหัวใจแม้อยู่ห่างกันแสนไกล
คือคนที่เมื่อเลิกลากันแล้วทำให้เรารู้สึกเจ็บแทบขาดใจ
คือคนที่เราจดจำไปตลอดชีวิตถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่ได้อยู่ร่วมชีวิตกัน
และคนรักของฉันนั้น..แน่นอน..คือเธอนั่นเอง...ยอดรักของฉัน.คนรักของฉัน

 
                       

++ ถึงเธอ ++
ฟ้าที่ไกลแสนไกล
ส่งผ่านความห่วงไยความคิดถึง
จากคนที่เคยรักเธอคนนึง
ยังรักและคิดถึงเธอทุกเวลา
ฝากความรู้สึกทั้งหมดที่มี
ถึงเธอคนดียามที่ไม่เห็นหน้า
ยามเมื่อต้องจากกัน...เหลือเพียงความผูกพันธ์ที่ผ่านมา
กับหยดรอยน้ำตาไหลเป็นทาง
ห่วงเธอเหลือเกินคนดี
ห่วงเธอยามไม่มีฉันเคียงข้าง
จะทุกข์จะสุขหรือไร...เมื่ออยู่ไกลคนละทาง

จะเหงาจะเหน็บหนาวบ้าง...หรืออย่างไร
ทุกครั้งที่มองดูท้องฟ้า
ฝากกับสายลมพัดพาความหวั่นไหว
โอบล้อมข้างๆเธอด้วยอุ่นไอ
บอกผ่านความห่วงยัยถึงคนดี
แค่อยากให้เธอรับรู้บ้าง
จะอยู่เคียงข้างในทุกที่
มอบความรักความผูกพันธ์...ทุกคืนวันให้ฝันดี
ความกังวลที่เธอมี....ขอฉันคนนี้รองรับแทน
   

ดูแลรักให้ยืดยาว


 ความรัก...เมื่อก่อตัวขึ้นใช่ว่าจะจบลงอย่างสวยงาม เฉกเช่นนิยายหวานแหววโรแมนติกเสมอไป เพราะหากคู่รักไม่ทะนุถนอม เอาใจใส่ ดูแลซึ่งกันและกัน ความหวานอาจแปรเปลี่ยนเป็นความขมระทมใจก็ได้ เพราะฉะนั้น ลองมาดูวิธีการดูแลรักษาความรักของคุณ ให้สวยสดงดงามเสมอกันดีกว่า...

 ไม่ควรคาดหวังกับความรัก 

         เพราะความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก จึงเอาแน่เอานอนไม่ได้ อย่าคาดหวังว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ เพราะหากผิดหวังจะเสียใจเปล่า ๆ ทางที่ดีควรปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า และอย่าเขินที่จะบอกรัก เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าคุณจะบอกคำว่า "รัก" ให้กับคนที่คุณรู้สึกดีด้วย รวมถึงอย่าอายที่จะขอโทษ เพราะการขอโทษไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอะไร 

 รู้จักที่จะใช้ภาษากาย 

         เพราะการสัมผัสร่างกาย เช่น จับมือ กอด รูปหลัง สามารถสื่อความในใจของเราได้ดีกว่าคำพูดหลายเท่าเชียว หรือจดจำรายละเอียด เช่น ชอบทำกิจกรรมอะไร ชอบรับประทานอะไร  หรือชอบฟังเพลงแนวไหน แล้วหยิบยื่นสิ่งเหล่านี้ให้เสมอ

 ซื่อสัตย์และไว้ใจกันซึ่งกันและกัน 
         อีกทั้งให้เกียรติกันและกันเสมอ ไม่ก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวของกันและกันมากเกินจำเป็น อย่าทำให้เขารู้สึกว่าไม่สิทธิ์ที่จะทำอะไร การนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอ จะช่วยทำความคุณแคร์กันและกันมากขึ้น  

 ห้ามโกหก 

         เพราะจะไม่สามารถเชื่อใจกันได้อีก พูดกันตรง ๆ แต่ก็ต้องเลือกใช้คำที่ไม่ทำร้ายจิตใจ ที่สำคัญเมื่อมีปัญหาควรใช้เหตุผลในการพูดคุย อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือความรัก นึกถึงเรื่องดี ๆ ที่เขาเคยทำให้เรา ความโกรธหรืออารมณ์ชั่ววูบจะค่อย ๆ เบาบางลง

 อย่าคาดคั้นหาคำตอบ
          เพราะบางครั้งการที่เราดึงดันหาเหตุผล หาคำตอบ มันเป็นการกดดันอีกฝ่ายอย่างไม่มีประโยชน์ หากเราและเขาอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ลองถอยออกมา 1 ก้าว ทำใจให้สงบ รอจนกว่าทั้งคุณทั้งคู่จะพร้อม แล้วค่อยกลับมาคุยอีกครั้ง 
 
 ให้โอกาสและให้อภัย 
         ถ้าอีกฝ่ายทำอะไรผิดควรให้โอกาสในการแก้ไขข้อผิดพลาดนั้น แต่ถ้าผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องเดิม ๆ ก็ไม่ควรให้โอกาสเขาจนทำให้เราเจ็บปวดซะเอง เพราะความรักจะงดงาม หากคุณรักตัวเองก่อนที่จะไปรักคนอื่น 
 
         ง่าย ๆ เพียงเท่านี้ ความรักของคุณยั้งยืนยาวนานแล้วล่ะค่ะ...

สานรักวัยเรียน อย่างสร้างสรรค์

สานรักวัยเรียน อย่างสร้างสรรค์
รักล้อมรั้ว (centerpoint)


เรื่องของความรัก เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล หรือหาเหตุจับต้นชนปลายไม่ถูก อยู่ ๆ จะมานึกอยากให้รัก นึกอยากให้เลิกเหมือนถือรีโมททีวี ที่อยากจะเปลี่ยนช่องตอนไหนก็เปลี่ยนได้ซะเมื่อไหร่ล่ะ คนนะไม่ใช่ทีวี และถ้าหากเจ้าความรักมันมาในช่วงเรียนล่ะ จะทำยังไงกันดี วันนี้ลองมาดูวิธีรับมือกับความรักวัยเรียนกันดีกว่า

สานรักอย่าสร้างสรรค์

รักในวัยเรียนน่ะมีได้ แต่เรื่องเรียนต้องมาก่อน ใครจะมีรักในวัยเรียนก็ต้องไม่ทิ้งเรียน เป็นติวเตอร์ให้กัน ช่วยกันทำการบ้านหรือทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เดี๋ยวนี้มีเวทีประกวดและแข่งขันมากมายให้คนวัยเรียนได้ประลองความคิดความสามารถหันมาทำกิจกรรมดีๆไปด้วยเรียนไปด้วยดีกว่า มีเวลาอยู่ใกล้ชิดกันและไม่ทิ้งเรื่องเรียน ได้ทั้งคะแนนรักและคะแนนเรียน ส่วนเรื่องฮอร์โมนที่มันพลุ่งพล่านอยู่ข้างใน ท่องเอาไว้ “อย่าใจอ่อน”

ใช้เหตุผลเหนืออารมณ์

ตอนรักกันก็โปรโมชั่นเลิศซะสุดฤทธิ์ แต่ช่วงหมดโปรฯนี่แหละที่มักจะเดือดร้อนคนรอบข้างอยู่เสมอ อย่างนี้มันต้องเจอการตัดสัญญาณด้วยการใช้ ‘เหตุผลเหนืออารมณ์’ มีตัวอย่างคู่รักที่ทะเลาะกันปางตายให้เห็นตามสื่ออยู่มากมาย ถึงขั้นลงไม้ลงมือเพราะขาดวัยวุฒิด้วยกันทั้งคู่ คุณคงไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้างที่มองคู่ของคุณอย่างระอาใจ ส่ายหน้าหรือเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน ตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลมด้วยเหตุผลกันดีกว่า

ล้อมรั้วความรักของคุณให้อยู่ถูกที่ถูกทาง สร้างสรรค์อย่างมีสติ ไม่เกินขอบเขตจนเกินงาม เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น มีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนพ้องและให้เวลากับคนในครอบครัว มีความสุขในวัยเรียน เป็นวัยรุ่นตัวอย่างให้ครอบครัวได้ชื่นใจ เต็มที่กับชีวิตในเดือนแห่งความรักนะคะ

ตั้งกฎเหล็ก

วัยเรียนที่มีรัก ต้องใจแข็ง อย่าจอ่อนหรือปล่อยให้ความรักมาบังตาจนตาบอด ควรตั้งกฎเหล็กไว้เลยว่า ห้ามใกล้ชิดจนเกินงามทั้งในที่ลับและที่แจ้ง คนในครอบครัวต้องรับรู้เสมอว่าจะไปทำอะไร ที่ไหน เมือ่ไหร่ กับใคร เพราะถ้าใจอ่อนหรือยอมรับซะตั้งแต่แรก เกิดอดใจไม่ไหวไม่มีใครคอยห้ามใคร คราวนี้ล่ะคุณคุณนักรักในวัยเรียนทั้งหลาย …เดือนร้อนกันถ้วนทั่วแน่ๆดังนั้นกฎเหล็กต้องเป็นกฎเหล็กที่ห้ามยืดหยุ่นให้ใครเป็นอันขาด

5 เคล็ดลับ รักษาความรักให้สดใส


ความสัมพันธ์ของคนเราก็คล้ายกับคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งตลอดเวลา จนกระทั่งผืนแผ่นดินเปลี่ยนรูปร่างไปเนื่องจากแรงกัดกร่อนของน้ำทะเล ความสัมพันธ์ของคนคู่หนึ่งก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา บ้างก็ดีขึ้น บ้างก็เลวลง วันนี้เราจึงมาแนะนำวิธีที่จะทำให้ความสัมพันธ์เต็มไปด้วยความสนุกสนานและสงบสุข
ให้อภัยและลืม มันไม่พอหรอกแค่พูดว่า โอเค ฉันลืมไปแล้วว่าคุณเคยดื่มจนเมาเละในงานแต่งงานของญาติ คุณต้องฝังเรื่องไม่น่าพูดถึงพวกนี้ซะ ฝังให้ลึกชนิดโบกปูนทับเลย มันไม่ฉลาดเลยที่จะหยิบยกเรื่องผิดพลาดเก่าๆ มาโยนใส่หน้ากันเมื่อเกิดการโต้เถียงหรือกระทบกระทั่ง แม้ว่าการให้อภัยและลืมจะไม่ใช่ยาเพิ่มพลังในการรักษาความสัมพันธ์ แต่ถ้าคุณพูดว่าคุณให้อภัยและลืมเรื่องที่เกิดขึ้นคุณก็ควรหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ ถ้าคุณไม่สามารถทำได้อย่างที่คุณพูดไว้ต่อให้คุณปิดปากเงียบไม่พูดถึงมัน แต่ความไม่เชื่อใจและเชื่อมั่นก็จะเริ่มเกิดขึ้นในชีวิตคู่ของคุณ
อย่าทึกทักเอาเอง ถ้าคุณได้รับมอบหมายให้เขียนเรียงความเกี่ยวกับคู่ของคุณ ซึ่งรวมถึงสิ่งที่เขาชอบและไม่ชอบ ปรัชญาในการดำรงชีวิต รวมถึงความฝันของเขา คุณว่าคุณจะสามารถเขียนรายงานนี้ได้มากน้อยเพียงไรโดยที่ไม่ต้องกลับไปถามคู่ของคุณ แม้ว่าคุณจะเชื่อว่าคุณสามารถเขียนมันออกมาได้ถึงสิบบทในรวดเดียว แต่คุณแน่ใจแล้วหรือ แค่เพราะว่าคุณเจอเขาทุกวันไม่ได้หมายความว่าคุณรู้ทุกสิ่งที่เขาคิดในใจนี่นา ถาม “ความเห็น” เหมือนกับคุณเป็นผู้สัมภาษณ์คนนึง และรอฟังคำตอบ อย่าตั้งสมมติฐานกับความสัมพันธ์ของคุณ
พูดคุยและใช้เวลาร่วมกัน รถยนต์คงไม่สามารถวิ่งได้ตลอดโดยไม่มีการเติมน้ำมัน ความสัมพันธ์ก็ต้องการการซ่อมบำรุงเช่นกัน ซึ่งหมายถึงช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย การแบ่งปันปัญหาและช่วงเวลาสำหรับการวางแผนอนาคต หาเวลาสำหรับเติมความสดชื่นให้กับชีวิตเรื่องต่างๆ สามารถรอได้ในขณะที่คุณหัวเราะร่วมกันและแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ในชีวิต
ทำตัวเป็นพีอาร์ ไม่มีอะไรจะเซ็กซี่เท่าการได้รู้ว่าเขาชมคุณลับหลัง พวกเราต่างก็มีชีวิตส่วนตัวและการงานอันสับสนวุ่นวายซึ่งบางครั้งทำให้เราลืมที่จะทำดีกับคนรอบข้าง อย่าเอาอารมณ์ไปใส่กับคนอื่น จงชื่นชมกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำ ลองนึกถึงรายการความดีต่างๆ ของเขาซึ่งบางอย่างคุณอาจลืมเลือนมันไป
การผจญภัยใหม่ๆ ส่งสิ่งใหม่ๆ เข้าไปในชีวิตคู่บ้าง เช่น ไปดูกีฬาถึงแม้คุณจะไม่ใช่แฟนตัวยง บอกเขาไปว่าคุณสนุกที่จะอยู่กับเขาแม้ในกิจกรรมที่คุณไม่ถนัดก็ตาม ช่วยเขาทำบางอย่างเกี่ยวกับงานที่สำนักงาน ชวนเพื่อนเขาที่คุณอาจไม่ชื่นชอบเป็นพิเศษ ดีกับเขาโดยไม่มีเหตุผล ชวนกันไปทำกิจกรรมใหม่ๆ เช่น เรียนภาษา ไปเที่ยวนอกบ้าน เพราะการเติมเต็มด้วยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็สำคัญเช่นกัน บางครั้งคุณก็ต้องการกำลังใจ ดังนั้นการแสดงออกถึงความใส่ใจเป็นการผนึกรากฐานของชีวิตให้แนบแน่นยิ่งขึ้น